top of page

ความรู้เพิ่มเติมสำหรับพยาบาลไตเทียม

เส้นฟอกไต VASCULAR ACCESS FOR HEMODIALYSIS
เปรียบเทียบ AVF AVG Perm and DLC.JPG

การหยุดยาต้านเกล็ดเลือด ( Antiplatelet ) และ ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulant ) ก่อนผ่าตัด จำเป็นหรือไม่

การหยุดยาต้านเกล็ดเลือด ( Antiplatelet ) และ ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulant ) ก่อนผ่าตัด จำเป็นหรือไม่

1. Antiplatelet (ยาต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด หรือ เรียกสั้นๆว่า ยาต้านเกล็ดเลือด) คือ กลุ่มยาที่ใช้ลดการเกาะตัวกันของเกล็ดเลือด (ดูตัวอย่างชื่อยาจากรูปที่ 1) ทำให้เลือดหยุดไหลช้าหรือไม่ยอมหยุดไหล

2. Anticoagulant (ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด) คือ เป็นยาป้องกันการเกิดลิ่มเลือด โดยออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการก่อตัวของลิ่มเลือด (ดูตัวอย่างชื่อยาจากรูปที่ 2 )

ข้อควรพิจารณาในการหยุดยาต้านเกล็ดเลือดและยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด

1. ยาทั้ง 2 กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มยาที่ต้องพิจารณาก่อนทำหัตถการหรือก่อนผ่าตัด โดยก่อนทำหัตถการหรือผ่าตัดควรจะต้องหยุดยากลุ่มเหล่านี้เพื่อลดปัญหาเลือดหยุดไหลยาก

2. แต่ถ้าคนไข้จำเป็นต้องได้รับยาต่อเนื่องและไม่สามารถหยุดยา 2 กลุ่มนี้ก่อนทำหัตถการหรือผ่าตัดได้ เพราะอาจมีผลต่อการควบคุมโรคประจำตัวที่สำคัญของคนไข้ได้ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ จึงควรต้องระวังอย่างมากในการทำหัตถการหรือผ่าตัด

3. ในการผ่าตัดทำเส้นฟอกไตทั้งหลอดเลือดจริงและหลอดเลือดเทียม ซึ่งมีการผ่าตัดเชื่อมต่อระหว่างหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำหรือหลอดเลือดจริงกับหลอดเลือดเทียม แรงดันในหลอดเลือดที่สูงอาจทำให้มีโอกาสรั่วซึมของเลือดบริเวณรอยต่อของหลอดเลือดที่เชื่อมต่อได้ และกรณีคนไข้ที่ไม่ได้หยุดยา 2 กลุ่มนี้อาจมีปัญหาเลือดหยุดไหลยากได้

ข้อสำคัญในกรณีต้องรับการผ่าตัดทำเส้นฟอกไตในผู้ป่วยที่ไม่สามารถหยุดยาต้านเกล็ดเลือด ( Antiplatelet )

# หากกรณีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจำเป็นจะต้องผ่าตัดทำเส้นฟอกไตโดยไม่สามารถหยุดยากลุ่มนี้ แพทย์และคนไข้จะต้องมีการพิจารณาตามความเร่งด่วนของหัตถการโดยมีหลักการพื้นฐานดังนี้

# ในกรณีคนไข้ที่ทานยาต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด โดยปกติแพทย์มักจะให้หยุดยา ประมาณ 7-10 วัน ยกเว้นยาบางตัวที่ออกฤทธิ์ค่อนข้างอ่อนหรือฤทธิ์ยาไม่แรงมากอาจจะให้หยุดยาก่อนทำหัตถการ 2-3 วันได้ (โดยดูจากรูปภาพที่ 1 เป็นรายการชื่อยาและจำนวนวันที่ควรหยุดก่อนทำหัตถการ)

# ยาต้านเกล็ดเลือด Cilostazol (Pletaal)ฤทธิ์ยาไม่แรงมาก ให้หยุดยาก่อนทำหัตถการ 2-3 วัน แต่ถ้าเป็นยากลุ่ม Clopidogrel (Plavix) ฤทธิ์ยามีความแรงมากขึ้น ควรหยุดยาก่อนทำหัตถการประมาณ 7-10 วัน

ข้อที่พิจารณาสำคัญในกรณีต้องรับการผ่าตัดทำเส้นฟอกไตในผู้ป่วยที่ไม่สามารถหยุดยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulant )

# ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ส่วนใหญ่ยากลุ่มนี้คนไข้อาจจะได้รับยารับประทานหรือยาฉีด ที่มีการออกฤทธิ์ไม่นานมากนัก ส่วนใหญ่ประมาณ 1-2 วัน เพราะฉะนั้นยากลุ่มป้องกันการแข็งตัวของเลือดนี้ สามารถที่จะหยุดยาภายใน 1-2 วันก่อนทำหัตถการหรือผ่าตัดได้ แต่มียกเว้นกลุ่มยาดั้งเดิม กลุ่มยา Warfarin ที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมนาน ควรงดยา 7-10 วัน และต้องดูผลตรวจเลือด PT, INR ร่วมด้วย ก่อนผ่าตัด

การพิจารณาหยุดยาก่อนทำหัตถการ.png
การพิจารณาหยุดยาก่อนทำหัตถการ2.png

การ lock ยาฆ่าเชื้อเข้าสายฟอกเลือดชนิดกึ่งถาวรที่ติดเชื้อ

การ lock ยาฆ่าเชื้อเข้าสายฟอกเลือดชนิดกึ่งถาวรที่ติดเชื้อ

สายฟอกเลือดชนิดกึ่งถาวรติดเชื้อ การรักษาอาจต้องรักษาร่วมกันทั้ง

1. ให้ยาฆ่าเชื้อเข้าทางหลอดเลือดดำ

2. ใช้ยาฆ่าเชื้อชนิดเดียวกันกับที่ให้ทางหลอดเลือดดำมา lock สายฟอกเลือดชนิดกึ่งถาวรที่ติดเชื้อด้วย

3. หลังจากคนไข้อาการดีขึ้นแล้ว ควรพิจารณา เปลี่ยนสายฟอกเลือด ใส่เส้นใหม่แต่ด้านเดิม (Exchange over the wire) เพราะเชื้อมักเกาะติดผนังด้านในของท่อของสายฟอกเลือดชนิดกึ่งถาวรนั้น และเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยกลับมาติดเชื้อเข้ากระแสเลือดอีกได้ง่าย

# ดูตามในรูป…เป็นตัวอย่างการรักษาด้วยยา และวิธีผสมยาฆ่าเชื้อที่ใช้ lock สายฟอกเลือด ซึ่งต้องพิจารณาว่า ยาที่ใช้ lock ควรมีความเข้มข้นที่ต้องการเท่าไร และยามีส่วนผสมของ heparin ที่ผสมแล้วต้องการความเข้มข้นเท่าไรด้วย

# ตัวอย่าง : ถ้าต้องการยาCeftazidime ที่มีความเข้มข้น 10mg/mLและHeparin ความเข้มข้นที่ 1000 units/mL และ นำยาที่ผสม heparin แล้วมา lock สายฟอกเลือดโดยใช้ปริมาณเท่ากับ Priming Volume ของแต่ละท่อ A และ V ของสายฟอกเลือด

# หมายเหตุ : ยาฆ่าเชื้อที่ใช้ Lock อาจเป็นยาชนิดอื่นตามการตอบสนองของยาต่อเชื้อโรคหรือตามที่แพทย์สั่ง

# ขอขอบคุณ อ.ภญ. จาฏพัจน์ เหมพรรณไพเราะ จากคณะ เภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ที่ทำ รูป diagram ที่สวยงาม ของตัวอย่างวิธีการผสมยา Antibiotic Locking Therapy(ALT) Vancomycin และ Cefazolin

# จากตัวอย่าง อย่าเอาไปใช้ตามนี้นะครับ ต้องให้แพทย์ที่รักษาสั่งยาเท่านั้น

ยาขนิดเดียวกัน lock 2.jpg
lock ยา มีลาย.JPG
bottom of page